หากเด็กมีการอดนอน หรือมีความผิดปกติของการนอน จะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตได้ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิต ภาวะโรคซึมเศร้า หรือทำให้อาการของโรคต่าง ๆ รุนแรงขึ้น
เพื่อที่จะจัดการกับปัญหาอย่างเหมาะสมนั้น จำเป็นต้องทบทวนวิถีชีวิตด้วย “การตื่นเช้าและเข้านอนเร็ว”
แนะนำผู้เขียน
Hiromi Kurihara
Senior sleep health instructor
อาจารย์อาวุโสด้านสุขภาพและการนอนหลับ จบจากสถาบัน Japan Sleep Education System ประเทศญี่ปุ่น โดยมีแนวคิดที่ว่า “การนอนหลับเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต” ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร Kenko Shop มุ่งเน้นให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการนอนและค้นหาเครื่องนอนสุขภาพจากญี่ปุ่นส่งถึงมือชาวไทย
Table of Contents
ไฟสีเหลืองสำหรับการนอนหลับของเด็ก ๆ
เป็นเรื่องปกติที่เด็ก ๆ จะขยี้ตา และหาวหลังจากที่ได้วิ่งเล่น กินข้าว และ อาบน้ำในตอนเย็น อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีจำนวนเด็กที่ไม่นอนทั้งที่ควรจะนอน หรือนอนไม่หลับแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกง่วงนอนมากขึ้น อันที่จริง ในหมู่เด็ก 4 – 5 คน จะมี 1 คน ที่จะมีปัญหาด้านการนอน เช่น มีปัญหาเรื่องพฤติกรรมการนอน และ มีความผิดปกติของการนอน เป็นต้น
ปัญหาการนอนของเด็กวัยหัดเดิน
จากการสำรวจพฤติกรรมการนอนในวัยเด็กที่จัดทำโดย Japan Child Health Association ในปี 1980, 1990 และ 2000 มีจำนวน 22 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่เข้านอนหลังเที่ยงคืนเพิ่มขึ้น โดยอัตราส่วนการเข้านอนหลัง 22.00 น. เพิ่มขึ้นทั้งเด็กอายุ 1 ปี 6 เดือน, 2 ขวบ, 3 ขวบ, 4 ขวบ และ 5-6 ขวบ และมีแนวโน้วที่จะมีนิสัยนอนดึกที่เพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ระยะหลังจะมีจำนวนที่น้อยลง แต่ก็ยังมีเด็กหลายคนที่ยังนอนดึกและตื่นสายอยู่
ผลการสำรวจของทารกแรกเกิดในศตวรรษที่ 21 โดยกระทรวงสาธารณสุข ที่สำรวจและติดตามพฤติกรรมการนอนของเด็กจำนวนมากกว่า 40,000 ที่เกิดในช่วงปี 2544 เมื่อเด็กอายุได้ 4 ปี 6 เดือน เวลาเข้านอนที่พบบ่อยที่สุดคือ 21:00 น. (50.1%) รองลงมาคือ 22:00 น. (21.9%) และ จำนวนเด็กที่เข้านอนก่อน 21.00 มีจำนวน 1 คน จาก 5 คน เท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนน้อย
ซึ่งเป็นการที่ได้รับอิทธิพลจากพ่อ หรือแม่ที่ทำงานล่วงเวลา และกลับมาบ้านดึก หากในบ้านที่แม่เป็นคนทำงานนั้น จะมีเวลาทำงานที่ลากยาว เพราะฉะนั้นจะทำให้สัดส่วนของเด็กที่เข้านอนหลังเวลา 22.00 มีมากขึ้น ในอนาคต ความก้าวหน้าทางสังคมของผู้หญิงจะมีความก้าวหน้าต่อไป แต่เราก็ควรจะต้องตระหนักว่าการนอนหลับของเด็ก ๆ นั้น ได้รับผลกระทบอย่างมากจากวิถีชีวิตของพ่อแม่
นักเรียนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้นและปลายของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงด้านการเป็นคนนอนดึกมากที่สุดในโลก เด็กหลายคนไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็จะต้องไปเรียน แม้จะไม่ได้กินข้าว และมีอาการง่วงนอนระหว่างวัน ในบางกรณี อาการง่วงนอนทำให้เด็ก
ไม่สามารถจดจ่อกับชั้นเรียนได้ และเกิดเป็นความบกพร่อง
ทางการเรียนรู้ หรือมีพัฒนาการที่ผิดปกติ และเป็นโรค
เช่น โรคสมาธิสั้น
เด็ก ๆ จะนอนดึกในช่วงสุดสัปดาห์ เพราะเมื่อเทียบวันธรรมดากับวันหยุดสุดสัปดาห์แล้วเด็กจะนอนดึกว่าประมาณ 3 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ทำให้มีอาการนอนไม่พอ การที่นอนดึกในช่วงสุดสัปดาห์ (คิดว่าโดยเฉพาะวันอาทิตย์) จะทำให้นอนหลับยาก และจะเจอกับเช้าวันจันทร์ที่ทรมาน
การนอนดึกจะทำให้เกิดอาการนอนไม่เพียงพอ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมื่อเด็ก ๆ โตขึ้นจะมีอัตราการนอนไม่พอเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าที่เด็กนอนดึกนั้นมีหลากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ดูทีวี เล่นเกม อ่านหนังสือ และอื่นๆ เพราะฉะนั้น เด็ก ๆ เหล่านี้ควรได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม
สิ่งที่รบกวนนาฬิกาชีวิต
พฤติกรรมการนอนที่ผิดปกติจะรบกวนนาฬิกาชีวิตของคุณ นาฬิกาชีวิตนั้น (นาฬิกาชีวภาพ) ถูกตั้งค่าไว้เพื่อให้เราค่อย ๆ ง่วงนอนหลังจากที่เราตื่นและได้รับแสง เป็นเวลาประมาณ 14 ชั่วโมง ในเด็กที่มีจังหวะชีวิตที่ผิดปกตินั้น นาฬิการ่างกายของเด็กจะแตกต่างกันไปในทุกวัน ดังนั้นเวลาที่หลับและตื่นนอนก็จะผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กที่นอนตื่นสายในวันหยุดสุดสัปดาห์จะทำให้พลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสกับแสงจ้า (แสงแดด) ที่จะปรับนาฬิกาชีวิตของพวกเขา ทำให้พวกเด็ก ๆ มีโอกาสที่จะนอนดึกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่ใช่ว่า “นอนเร็ว ตื่นเร็ว”
ฉันมักจะได้รับคำถามที่ว่า「คุณมีเคล็ดลับอะไรทำให้ตื่นเช้าหรอ?」คุณมักจะได้ยินคุณแม่พูดว่า 「นอนเร็วเข้า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นเช้าไม่ได้เอานะ!!」กรุณาเปลี่ยนความคิดแบบนี้ไป
เริ่มจาก ไม่ใช่「นอนเร็ว ตื่นเร็ว」แต่เป็น「ตื่นเร็ว นอนเร็ว」
ในสัปดาห์แรก พยายามตื่นเช้า ในขณะที่แปรงฟันก็ให้ออกไปที่ระเบียงเพื่อโดนแดด หากไม่สามารถทำได้ ให้หันหน้าออกทางหน้าต่าง (แค่มองจากในห้องไม่เพียงพอในการปรับนาฬิกาชีวิต) หลังจากผ่านไปหนึ่งถึงสองสัปดาห์ นาฬิกาชีวิตของเด็กจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นคนตื่นเช้า และความทรมานจากการที่ต้องตื่นเช้าก็จะลดลง หากต้องตื่นเช้าก็สามารถชดเชยได้ด้วยการเข้านอนเร็ว
คุณสามารถใช้แสงแดดและอาหารเช้าในการตั้งนาฬิกาชีวิตได้เพื่อเริ่มต้นวัน อย่างไรก็ตาม กรุณาอย่าตื่นสายในช่วงวันหยุด หากนอนตื่นเกินเวลาเที่ยง นาฬิกาชีวิตของคุณจะล่าช้า และสิ่งที่ ทำไปตลอด 1 สัปดาห์จะไม่มีประโยชน์
อย่าละเลยความผิดปกติของการนอนหลับ
แม้แต่เด็ก ๆ ก็มีอาการนอนไม่หลับหลายประเภทที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีชีวิตและนิสัยการนอนเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งในเด็กจะมี 2% ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ในกรณีที่รุนแรงจะสร้างความลำบากในการจดจ่อระหว่างวันและความสามารถในการเรียนรู้ที่ลดลง ดังนั้นควรระมัดระวัง
นอกจากนี้ยังมีอาการการละเมอ (เดินละเมอ) อาการผวา (หวาดกลัวระหว่างหลับ) ฉี่รดที่นอน นอนไม่หลับ ความผิดปกติของการนอนหลับจังหวะชีวิต โรคขากระตุก อาการคันเนื่องจากการเป็นภูมิแพ้ เป็นต้น ทั้งนี้ก็อาการแบบเดียวกันในผู้ใหญ่ หากเกิดอาการหยุดหายใจขณะนอนหลับ คุณภาพการนอนไม่ดี เคลื่อนไหวร่างกายผิดปกติขณะหลับ หรือ มีอาการง่วงนอนมากเกินไปในตอนกลางวัน เป็นต้น หากมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษากุมารแพทย์ของคุณ
การนอนหลับพักผ่อนเป็นแหล่งของการเจริญเติบโตที่ดี
เด็ก ๆ จะมีชีวิตที่ดีเมื่อเด็ก ๆ นอนหลับได้ดี เพราะการนอนของเด็กจะสะท้อนวิถีชีวิตของผู้ใหญ่ ขอให้คุณทบทวนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคุณ และครอบครัวเพื่อสนับสนุนการนอนหลับของลูก
บทสรุป
การนอนส่งผลสำคัญต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาทั้งร่างกาย จิตใจของเด็ก การนอนเพียงพอช่วยให้เด็กมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมองทำงานได้ดี และมีพัฒนาการที่ดีขึ้น หากนอนไม่เพียงพอก็อาจส่งผลต่อพฤติกรรม และสุขภาพจิตของเด็กในระยะยาว
ดังนั้น ผู้ปกครองอาจต้องสร้างนิสัยการนอนที่ดีอย่างการ “การตื่นเช้าและเข้านอนเร็ว” เพื่อเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนการเจริญเติบโตและความสุขของเด็ก
แนะนำ! เครื่องนอนสำหรับเด็ก
ดูแลสุขภาพการนอนหลับตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อเติบโตอย่างสดใส แข็งแรง
หมอนสำหรับเด็กทารกที่มีให้เลือก 2 ขนาด คือ
- แรกเกิด – 6 เดือน
ขนาด กว้าง 22 x ยาว 31 ซม. สูง 2.5-6.5 ซม. - 7 เดือน – 24 เดือน
ขนาด กว้าง 26 x ยาว 37 ซม. สูง 4.5-8.5 ซม.
สามารถปรับระดับความสูงของหมอนให้เหมาะสมกับสรีระของลูกน้อยได้
ปลอกหมอนภายนอกมีสัมผัสนุ่ม ลดการระคายเคืองผิว สามารถถอดซักทำความสะอาดได้
ส่วนปลอกหมอนภายในใช้ผ้า 3D ที่ระบายอากาศได้ดีจึงไม่ทำให้อับหรือร้อนอบอ้าว
*ความสูงของหมอนปรับได้โดยการถอดคอตตอนด้านในออก
แผ่นรองนอนสำหรับเด็ก Baby Salaf รุ่น Cool
นวัตกรรมใหม่! จากประเทศญี่ปุ่น ที่จะช่วยให้ลูกน้อยเย็นสบาย หลับสนิท หมดปัญหาเรื่องที่นอนร้อน หรือมีเหงื่อออกขณะนอนหลับ เป็นแผ่นรองที่นอน ที่เกิดจากแนวคิดของสินค้า ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเย็นสบายเมื่อสัมผัส และการถ่ายเทอากาศที่ดี
Baby Salaf เป็นแผ่นรองนอนสำหรับเด็ก ช่วยระบายอากาศและซึมซับเหงื่อได้ดี ลดการเกิดผดผื่นคันอันเนื่องมาจากอาการแพ้เหงื่อหรืออับชื้นได้ แผ่นรองจะช่วยดูดความร้อนเเละกระจายออกไปได้อย่างรวดเร็ว
จุดเด่นนั้นอยู่ที่ความรู้สึกเย็นและความละเอียดอ่อนของเส้นใยเมื่อได้สัมผัส และยังสามารถนำไปใช้ได้ง่าย เพียงนำไปวางบน Car seat หรือรถเข็น ก็สามารถทำให้เย็นสบาย นอนหลับสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ทำให้อับชื้น ซับน้ำ ซับเหงื่อ แห้งไวกว่าผ้าคอตตอนทั่วไปประมาณ 30%
ขนาด: กว้าง70 x ยาว 120cm.