ทำไมผ้าห่มเก่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ?
การนอนหลับที่ดีเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพกายและใจ และผ้าห่มก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การนอนหลับของเรามีคุณภาพดีที่สุด แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเราควรเปลี่ยนผ้าห่มเก่าเมื่อไหร่?
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความสำคัญของผ้าห่ม ผ้าห่มส่งผลต่อการนอนหลับอย่างไร? ทำไมต้องเปลี่ยนผ้าห่มเก่าด้วยล่ะ? สัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนผ้าห่มเก่าแล้ว ไปดูกันเลย!
แนะนำผู้เขียน
Hiromi Kurihara
Senior sleep health instructor
อาจารย์อาวุโสด้านสุขภาพและการนอนหลับ จบจากสถาบัน Japan Sleep Education System ประเทศญี่ปุ่น โดยมีแนวคิดที่ว่า “การนอนหลับเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต” ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร Kenko Shop มุ่งเน้นให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการนอนและค้นหาเครื่องนอนสุขภาพจากญี่ปุ่นส่งถึงมือชาวไทย
Table of Contents
ความสำคัญของผ้าห่มคืออะไร?
ผ้าห่ม (Blanket) เป็นเครื่องนอนที่ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายในขณะที่เรานอนหลับ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวหรือในสภาพอากาศที่เย็น การใช้ผ้าห่มช่วยป้องกันความหนาวเย็นและทำให้เรารู้สึกสบายมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นผ้าห่มที่ผ่านการใช้งานมานานแล้วมีลักษณะเสื่อมสภาพลง เช่น มีรอยยับหรือเส้นใยในผ้าห่มบางลงจนไม่สามารถห่มผ้าให้ความอบอุ่นระหว่างนอนหลับได้จากการใช้งานมานานหลายปีไม่เหมือนตอนที่ซื้อมาใหม่ ๆ ส่งผลให้คุณภาพการนอนหลับของเราไม่ดีเท่าที่ควร
ผ้าห่มสำคัญต่อการนอนหลับอย่างไร?
ผ้าห่มเป็นสิ่งจำเป็นที่สำคัญต่อการนอนหลับเพราะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความสบายและให้ความอบอุ่นในช่วงเวลาพักผ่อนของเรา ดังนั้น ผ้าห่มมีบทบาทสำคัญต่อการนอนหลับของเรา 4 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย
ในขณะนอนหลับ อุณหภูมิร่างกายจะลดลงเพื่อหลั่งสารเมลาโทนินที่ทำให้เราง่วง เมื่อเข้าสู่ช่วง REM ช่วงการหลับลึก ร่างกายจะซ่อมแซมส่วนต่างๆ และหลั่งฮอร์โมนหลายชนิด อุณหภูมิจะลดลงต่ำสุดโดยเฉพาะตอนใกล้เช้า การห่มผ้าจะช่วยรักษาอุณหภูมิไว้ อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการนอนหลับคือ 18-22 องศาเซลเซียส
ดังนั้นการห่มผ้าจะช่วยรักษาความอบอุ่นและสร้างสภาพแวดล้อมที่สบายสำหรับการนอนหลับ และช่วยให้เราอยู่ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมนี้ตลอดทั้งคืน
2. ส่งเสริมความรู้สึกผ่อนคลาย
ผ้าห่มสัมผัสนุ่มนวลสามารถกระตุ้นการหลั่งเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ การห่มผ้ายังสามารถลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ และช่วยให้นอนหลับง่าย หรือหลับสบายยิ่งขึ้น
3. สร้างความรู้สึกปลอดภัย
มนุษย์มีสัญชาตญาณตามธรรมชาติที่โหยหาความปลอดภัยและการปกป้องการห่มผ้าสามารถจำลองความรู้สึกเหมือนถูกโอบกอดหรือห่อหุ้ม สิ่งนี้อาจช่วยลดความรู้สึกวิตกกังวลและส่งเสริมการนอนหลับที่สบาย
4. ส่งสัญญาณว่าถึงเวลานอนแล้ว
ตั้งแต่เป็นเด็กก่อนเข้านอนก็จะมีคุณพ่อ คุณแม่เข้ามาห่มผ้าให้ทุกครั้ง ส่งผลให้ปัจจุบันเมื่อเติบโตมา สมองของเราสั่งการให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า ห่มผ้าเมื่อไรเท่ากับถึงเวลานอนหลับแล้วช่วยให้ร่างกายและจิตใจของคุณพร้อมเข้าสู่การนอนหลับ
4 สาเหตุทำไมต้องเปลี่ยนผ้าห่มเก่า?
การใช้ผ้าห่มเก่าที่ไม่สะอาดและมีคุณภาพต่ำอาจทำให้ร่างกายรู้สึกไม่สบายและทำให้ภูมิคุ้มกันของเราลดลง แต่ผ้าห่มใหม่ที่มีคุณภาพดีสามารถช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้เหมาะสม ทำให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น และยังช่วยป้องกันการสะสมของไรฝุ่นและแบคทีเรีย ดังนั้นคุณควรพิจารณาเปลี่ยนผ้าห่มเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เหตุผลของการเปลี่ยนผ้าห่มเก่าจึงมีความสำคัญ 4 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. สุขอนามัย ผ้าห่มที่ใช้เป็นเวลานานจะสะสมฝุ่นละออง ไรฝุ่น เหงื่อ น้ำมันจากผิวหนัง และแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ถ้าไม่เปลี่ยนผ้าห่มเป็นประจำ สิ่งสกปรกเหล่านี้จะสะสมมากขึ้นและทำให้เราเกิดอาการคันที่ผิว เสี่ยงเป็นโรคผิวหนังได้
2. การป้องกันโรคภูมิแพ้ ฝุ่นละอองและไรฝุ่นที่สะสมในผ้าห่มอาจกระตุ้นอาการภูมิแพ้ ทำให้มีอาการจาม คัดจมูก หรือหายใจลำบาก การเปลี่ยนผ้าห่มช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ที่อาจมีอยู่ได้
3. การนอนหลับที่ดีขึ้น การนอนหลับบนผ้าห่มที่สะอาดจะทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้การนอนหลับมีคุณภาพดีขึ้น
4. เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ผ้าห่มที่ใช้เป็นเวลานานจะมีกลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นเหม็นจากเหงื่อและสิ่งสกปรกสะสม แม้ซักเท่าไรก็ยังมีกลิ่นติดอยู่เหมือนเดิม รวมทั้งกลิ่นจะยังไปรบกวนการนอนหลับของคุณ ส่งผลให้นอนหลับยาก
เช็คลิสต์ 10 ข้อ สัญญาณเตือนถึงเวลาเปลี่ยนผ้าห่มเก่า
การเปลี่ยนผ้าห่มเก่าเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้คุณรับรู้ถึงความสะอาดและความสบายในการนอนหลับของคุณได้ดีขึ้น นี่คือเช็คลิสต์เบื้องต้น 10 ข้อที่คุณสามารถใช้เพื่อตรวจสอบว่าถึงเวลาเปลี่ยนผ้าห่มเก่าแล้วหรือยัง ดังต่อไปนี้
- ได้กลิ่นเหม็นหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์จากผ้าห่มเก่า ถึงแม้ว่าจะซักแล้วก็ยังคงมีกลิ่นอยู่
- มีคราบและรอยเปื้อนที่ไม่สามารถซักออกได้
- ผ้าห่มเก่าสีซีดจางหรือหมองลง
- เวลานอนห่มผ้าหรือจับผ้าห่มเก่าแล้วให้ความรู้สึกหยาบแข็งกระด้าง
- ไส้ในผ้าห่มเก่าจะบางลง ไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้เพียงพอ พยายามห่มเท่าไรก็ยังหนาวสั่นเหมือนเดิม
- มีอาการผื่นคัน ระคายเคืองผิวระหว่างห่มผ้า
- เนื้อผ้าขาด ด้ายหลุดลุ่ย
- ใช้ผ้าห่มเก่านานกว่า 5-8 ปี
- ไม่ใส่หรือเปลี่ยนปลอกผ้าห่มเก่าเลยสักครั้ง
- ผ้าห่มเก่าจะยืดหรือเสียรูปทรง
ถ้าหากคุณตอบ “ใช่” มากกว่า 4 ข้อขึ้นไปล่ะก็เป็นสัญญาณว่าผ้าห่มเก่าของคุณเสื่อมสภาพลงแล้ว สามารถตรวจสอบเช็คลิสต์นี้เป็นวิธีที่ดีเพื่อช่วยคุณตัดสินใจในการเปลี่ยนผ้าห่มเก่าในเวลาที่เหมาะสม!
วันนี้เราจะช่วยให้คุณเลือกผ้าห่มใหม่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพและตรงกับความต้องการโดยเฉพาะของคุณด้วยการแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่สำหรับปัญหาที่มักพบบ่อยเพื่อให้คุณสามารถเลือกผ้าห่มใหม่ได้ง่ายขึ้นและให้แก้ปัญหาได้โดยตรง ดังต่อไปนี้
สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นเหม็นอับชื้น และมีผิวระคายเคืองง่าย
ผ้าห่ม Marshmallow
ผ้าห่ม Shoshu ระงับดับกลิ่น
- ระงับกลิ่นที่เกิดจากเหงื่อ กลิ่นวัยชราได้อย่างดีเยี่ยม
- ดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ของสารเคมี
ผ้าห่มนวม Air Cloud
ผ้าห่ม Cotton Candy
สำหรับคนที่ต้องการลดอาการตื่นกลางดึก เพื่อเข้าห้องน้ำบ่อย
ผ้าห่มเส้นใยหินแร่ Black silica รุ่น KAIMIN REM
ผ้าห่ม BSFine Futon เส้นใยหินแร่ Black Silica
- บาง เบา แต่ให้ความอบอุ่น เทียบเท่าผ้าห่มขนเป็ด ใช้เส้นใยชนิดใหม่ที่ออกแบบให้มีน้ำหนัก ผสานกับพลังของหินแร่ Black Silica จึงทำให้ได้ผ้านวมที่บางและเบามาก แต่ให้ความอบอุ่นสูงสุด เสมือนการใช้ผ้าห่มขนเป็ด
- หนาเพียง 5cm จึงจัดเก็บง่าย ลดความหนาจากผ้านวมทั่วไป 20cm เหลือเพียง 5cm เท่านั้น จึงทำให้จัดเก็บง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ และซักทำความสะอาดได้ง่าย
- ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้สามารถใช้ได้ เนื่องจากใช้เส้นใย BSFine แทนการใช้ขนสัตว์ จึงสามารถระบายอากาศได้ดี และไม่สะสมความชื้น ลดการสะสมของไรฝุ่น อีกทั้งยังใช้ได้ในผู้ที่แพ้ขนสัตว์
สำหรับคนที่ชอบความนุ่มนวล เรียบลื่น และอ่อนโยนต่อผิว
Cumuco blanket
ผ้าห่ม TORO Futon
- สัมผัสนุ่มจนแทบละลาย ด้วยเทคนิคการยืดคอตตอนให้บางและฟูซ้อนกันถึง 20 ชั้น ทำให้เกิดชั้นอากาศภายใน
- อ่อนโยนต่อผิว ปลอกนอกใช้วัสดุเดียวกับชุดของเด็กทารกแรกเกิด จึงให้สัมผัสที่นุ่มละมุนผิวยิ่งขึ้นอีก
- อบอุ่น แต่ไม่ร้อน ไม่ใช่แค่นุ่ม แต่อุ่นด้วย มีคุณสมบัติดูดซับและระบายความชื้นออก ระบายอากาศและความร้อนออกจากร่างกาย ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาห่ม
- ผ้าห่ม Single 150 x 210 cm. น้ำหนักประมาณ 1.6 kg. ปลอกผ้าห่ม Single 150 x 210 cm.
- ผ้าห่ม Queen 210 x 210 cm. น้ำหนักประมาณ 2.2 kg. ปลอกผ้าห่ม Single 210 x 210 cm.