“อาบป่า” เทรนด์ใหม่เพื่อคนที่มีปัญหาเครียด นอนไม่หลับ
ในยุคที่เราต้องเผชิญกับความเครียดและความกดดันจากการทำงานและการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ การอาบป่ากลายเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราพักผ่อนและฟื้นฟูพลังชีวิตในร่างกายตามศาสตร์ญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่มีปัญหาเครียด คิดมาก จนนอนไม่หลับ
ก่อนอื่นเรามาเรียนรู้ความหมายของการอาบป่ากันก่อนว่าคืออะไร ทำไมเราต้องอาบป่า คุณค่าที่แท้จริงของการอาบป่าคืออะไร คนแบบไหนบ้างที่เหมาะกับการอาบป่า และวิธีง่าย ๆในการอาบป่าที่สามารถทำได้ที่บ้านโดยไม่ต้องเดินเข้าป่าไปด้วยซ้ำเลย
แนะนำผู้เขียน
คุณโบว์ วรัญญา
Senior pillow advisor
ผู้เชี่ยวชาญด้านหมอนและการนอนหลับ ผ่านหลักสูตรการอบรมขั้นสูงจากสถาบัน Sleepeace ประเทศญี่ปุ่น ดูแลโดยอาจารย์ Miho Mihashi ผู้มีประสบการณ์และความรู้ลึกซึ้งในเรื่องของการนอนหลับและการเลือกหมอนที่ถูกต้อง โดยการเรียนรู้ในหลักสูตรนี้มุ่งเน้นการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับที่มีคุณภาพและการเลือกหมอนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล เพื่อให้ทุกคนสามารถนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพและสบายที่สุด นอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรมเพิ่มเติมในการปรับหมอนให้เหมาะกับสรีระและลักษณะการนอนของแต่ละบุคคล เพื่อให้คำแนะนำที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด
Table of Contents
การอาบป่า หมายถึงอะไร?
การอาบป่า (森林浴) หรือ ชินริน-โยกุ ในภาษาญี่ปุ่น เป็นกิจกรรมที่มีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่นมาเกือบ 44 ปี หมายถึง การให้ตนเองได้พบกับธรรมชาติโดยตรง และปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในธรรมชาติให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติทั้งหมด เพื่อเพิ่มคุณค่าสุขภาพทั้งร่างกาย และจิตใจผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งฟื้นฟูสุขภาพกาย และจิตใจ ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสงบให้กับจิตใจของบุคคลได้โดยตรง เป็นกิจกรรมที่ให้คนไปเดินเล่น หรืออยู่ในป่า เช่น การฟังเสียงนกร้อง สัมผัสผิวของต้นไม้ หรือสูดกลิ่นของดิน ถือเป็นการบำบัดร่างกายและจิตใจด้วยธรรมชาติ
ทำไมเราต้องอาบป่าด้วยล่ะ?
ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา เมื่อมีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้เรากักตัวอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลานาน ทำให้หลายคนเผชิญหน้ากับปัญหาสุขภาพจิต มีเวลาว่างนั่งดูข่าวเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย ส่งผลให้คนตระหนักถึงความอันตรายต่อโรคภัยมากขึ้น กระตุ้นให้คนทั่วไปเริ่มหันมาสนใจดูแลสุขภาพ
ดังนั้นการอาบป่าจึงกลายเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในทั่วโลก เนื่องจากมีการวิจัยหลายชิ้นที่สนับสนุนประโยชน์ด้านสุขภาพจากการใช้เวลาในธรรมชาติ โดยเฉพาะการอาบป่า นี่คือ 5 ตัวอย่างการวิจัยที่สำคัญจากทั่วโลก ดังต่อไปนี้
- การวิจัยของ Dr. Qing Li: Dr. Qing Li จากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์โตเกียว (Tokyo Medical University) เป็นหนึ่งในผู้วิจัยที่สำคัญเกี่ยวกับการอาบป่า งานวิจัยของเขาพบว่า การอาบป่าสามารถลดฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) และความดันโลหิต เพิ่มจำนวนของเซลล์ฆ่าธรรมชาติ (Natural Killer Cells) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- การวิจัยของ Yoshifumi Miyazaki: ศาสตราจารย์ Yoshifumi Miyazaki จากมหาวิทยาลัย Chiba (Chiba University) ได้ศึกษาผลกระทบของการอาบป่าต่อความเครียดและสุขภาพจิต งานวิจัยของเขาพบว่าการใช้เวลาในป่าสามารถลดระดับความเครียดและความวิตกกังวลได้อย่างมีนัยสำคัญ
3. การวิจัยของศูนย์การแพทย์โรคปอดและหัวใจมหาวิทยาลัยมิชิแกน: การศึกษานี้พบว่าการใช้เวลาในธรรมชาติสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคเรื้อรังอื่นๆ นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้เวลาในธรรมชาติสามารถปรับปรุงสุขภาพจิตและลดอาการซึมเศร้าได้
4. การวิจัยในวารสาร Environmental Health and Preventive Medicine: การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ได้ทบทวนผลกระทบของการอาบป่าต่อสุขภาพ โดยพบว่าการอาบป่ามีผลดีต่อการลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
5. การวิจัยจากมหาวิทยาลัย Stanford: การศึกษาจากมหาวิทยาลัย Stanford พบว่าการเดินเล่นในธรรมชาติสามารถลดกิจกรรมของสมองที่เกี่ยวข้องกับการคิดมากและความกังวล ซึ่งช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น
ความสำคัญของการอาบป่า มีอะไรบ้าง?
ในปัจจุบันที่ชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียดจากการทำงาน การอาบป่ากลายเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้ผู้คนสามารถพักผ่อนและฟื้นฟูสภาพจิตใจได้ การได้อยู่ในธรรมชาติ ช่วยให้เราได้สัมผัสกับความเงียบสงบและความงามที่ธรรมชาติมอบให้ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยให้เราผ่อนคลายแต่ยังมีผลดีต่อสุขภาพโดยรวม ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนรู้ถึงความสำคัญของการอาบป่าดั้งเดิมของญี่ปุ่น 6 ประการ ดังต่อไปนี้
- ประโยชน์ต่อสุขภาพที่ได้รับการยืนยันจากการวิจัย การศึกษาหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ทางสุขภาพจากการอาบป่า เช่น การลดความเครียด ลดความดันโลหิต ปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพการทำงาน
2. การตอบสนองต่อชีวิตที่มีความเร่งรีบและความเครียด ในสังคมที่เร่งรีบและมีความกดดันจากงานและการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้คนมองหาวิธีที่จะผ่อนคลายและฟื้นฟูสุขภาพจิต การอาบป่าจึงกลายเป็นวิธีที่น่าสนใจในการหาความสงบและผ่อนคลายจิตใจ
3. การเชื่อมโยงกับธรรมชาติ การอาบป่าเป็นวิธีที่ง่ายและธรรมชาติในการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ และช่วยให้ผู้คนรู้สึกเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ความรู้สึกนี้สามารถช่วยเพิ่มความสุขและความพอใจในชีวิต
4. แนวโน้มของสุขภาพแบบองค์รวม ในยุคปัจจุบัน ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งรวมถึงการดูแลทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ การอาบป่าจึงเป็นกิจกรรมที่สามารถตอบสนองต่อแนวโน้มนี้ได้เป็นอย่างดี
5. การหลีกหนีจากเทคโนโลยี การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลที่มีเทคโนโลยีอยู่รอบตัว การอาบป่าเป็นวิธีที่ดีในการหลีกหนีจากเทคโนโลยีและกลับมาอยู่กับปัจจุบัน ทำให้มีโอกาสได้พักผ่อนและฟื้นฟูจิตใจ
6. การส่งเสริมจากรัฐบาลและองค์กร ในบางประเทศ รัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ได้ส่งเสริมการอาบป่าเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมสุขภาพ ทำให้มีการเผยแพร่ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการอาบป่าเพิ่มขึ้น
การอาบป่าดีต่อสุขภาพอย่างไร?
การอาบป่าเป็นวิธีการที่ง่าย และไม่มีค่าใช้จ่ายสูงในการดูแลสุขภาพ เป็นการใช้เวลาสัมผัสธรรมชาติในป่า การอาบป่าสามารถทำได้ทุกคน และช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตในหลายด้าน มาเริ่มจากข้อดีของการอาบป่า 10 ประการ ดังต่อไปนี้
1. ลดความเครียด การมองดูภาพต้นไม้และการอยู่ใกล้พืช ช่วยลดความเครียดในชีวิตประจำวันในแต่ละวันของเราได้ที่จะนำพามาสู่โรคต่าง ๆ โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า ช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพดีขึ้น เช่น ในสถานที่ทำงาน หรือที่อยู่อาศัยที่มีการเตรียมวางต้นไม้ไว้ เป็นต้น
2. ส่งเสริมสุขภาพทางจิต การสัมผัสกับธรรมชาติช่วยลดอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวล และเพิ่มความรู้สึกพึงพอใจและความเป็นอยู่ที่ดี
3. เพิ่มสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ การพักผ่อนในป่าสามารถเพิ่มพลังงานและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
4. พัฒนาสมอง การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และการสัมผัสกับพืชช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น มีความชัดเจนในการคิด ทำให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. เพิ่มภูมิคุ้มกัน การอาบป่าช่วยเพิ่มจำนวนและกิจกรรมของเซลล์ NK (Natural Killer cells) ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีบทบาทในการต่อสู้กับเชื้อโรคและเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ การสัมผัสกับธรรมชาติและสารไฟโตไซด์ (phytoncides) ที่ปล่อยออกมาจากพืช ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงและต้านทานโรคได้ดียิ่งขึ้น
6. ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยลดความเครียดและความดันโลหิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ การใช้เวลาอยู่ในธรรมชาติ ลดฮอร์โมนความเครียด ช่วยให้หัวใจและหลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้น
6 วิธีการอาบป่าแบบง่าย ๆ สามารถทำได้ที่บ้าน
แม้การอาบป่าจะเป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจแต่เราก็ไม่สามารถเข้าไปในป่าหรือสัมผัสกับธรรมชาติได้ในทุกวัน ยิ่งคนที่ยุ่ง ๆ หรือใช้ชีวิตในเมือง ออกไปก็เจอแต่รถยนต์หนาแน่นติดกันยาวเยียด มลพิษทางอากาศ คงหาความสุขจากการอาบป่าไม่ได้แน่นอน
ดังนั้นเริ่มจากมาจัดตั้งพื้นที่การอาบป่าในบ้านของคุณเพื่อเข้าไปอยู่ในธรรมชาติกันดีกว่า เรามาเรียนรู้วิธีใช้น้ำมันหอมระเหยอย่างถูกวิธีเพื่อให้ห้องหอมสดชื่นยาวนาน ด้วย 6 วิธี ดังนี้
1. ใช้เครื่องกระจายน้ำมันหอมระเหย ใส่น้ำมันหอมระเหยฮิโนกิ 3-5 หยดลงในเครื่อง เติมน้ำตามคำแนะนำของเครื่อง จากนั้นเครื่องกระจายจะช่วยปล่อยกลิ่นหอมของน้ำมันออกมาในห้อง ทำให้บรรยากาศสดชื่นและผ่อนคลาย
2. ทำสเปรย์ฉีดในห้อง ผสมน้ำมันหอมระเหยฮิโนกิ 10-15 หยดกับน้ำสะอาด 1 ถ้วยตวงในขวดสเปรย์ เขย่าให้เข้ากันแล้วฉีดในห้องหรือบริเวณที่ต้องการ กลิ่นหอมจะช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในป่า
3. ใช้ในอ่างอาบน้ำ เติมน้ำมันหอมระเหยฮิโนกิ 5-10 หยดลงในอ่างน้ำอุ่น แช่ตัวในอ่างเพื่อให้กลิ่นหอมของน้ำมันช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และจิตใจ
4. ใช้นวดตัว ผสมน้ำมันหอมระเหยฮิโนกิ 5-10 หยดกับน้ำมันฐาน (Carrier oil) เช่น น้ำมันอัลมอนด์หรือน้ำมันมะพร้าว ใช้น้ำมันผสมนี้นวดตัวเพื่อช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและทำให้รู้สึกสดชื่น
5. ใช้ทามือ หยดน้ำมันหอมระเหยฮิโนกิ 1-2 หยดลงบนฝ่ามือ ถูมือเข้าด้วยกัน แล้วนำมือมาปิดจมูกและปาก สูดหายใจลึกๆ ช้าๆ เพื่อให้กลิ่นหอมเข้าสู่ระบบประสาท
6. ใช้ในห้องนอน หยดน้ำมันหอมระเหยฮิโนกิ 1-2 หยดลงบนหมอนหรือผ้าปูที่นอน เพื่อช่วยให้คุณนอนหลับสบายขึ้น
บทสรุป
แม้การอาบป่าจะดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ แต่เราไม่สามารถเข้าไปในป่าหรือสัมผัสกับธรรมชาติได้ในทุกวัน โดยเฉพาะคนใช้ชีวิตในเมือง ดังนั้นลองจัดพื้นที่อาบป่าในบ้านด้วย Hinoki essential oil น้ำมันหอมระเหยจากไม้ฮิโนกิ 100% ที่มีประโยชน์มากมายทั้งด้านสุขภาพร่างกาย และจิตใจ ช่วยให้พื้นที่ในบ้าน หรือในห้องนอนของคุณอบอวลไปด้วยกลิ่นไม้หอมฮิโนกิสร้างประสบการณ์การอาบป่า เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
Hinoki essential oil น้ำมันหอมระเหยจากไม้ฮิโนกิ 100%
จุดเด่นของ Hinoki essentail oil
- น้ำมันหอมระเหยสกัดจากไม้หอมฮิโนกิ 100% จากประเทศญี่ปุ่น – ไม่มีส่วนผสมของสารอื่นๆ
- ใช้กับหมอนไม้ Hinoki – นำน้ำมัน Hinoki ผสมลงในน้ำประมาณ 2-3 หยด แล้วนำไม้ฮิโนกิลงไปแกว่งในน้ำ หลังจากนั้นนำหมอนไปผึ่งลมในที่ร่มมีลมโกรก เพื่อให้แห้ง
- ฉีดพรมสิ่งต่างๆ – นำน้ำมัน Hinoki ผสมลงในน้ำเพียงเล็กน้อย แล้วนำไปฉีดพรมบนสิ่งต่างๆ หรือฉีดในอากาศเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น
- น้ำมันหอมระเหย – นำน้ำมัน Hinoki หยดลงบนเตาน้ำมันหอมระเหย แล้วจุดไฟ กลิ่นของน้ำมันจะกระจายไปทั่ว ช่วยให้คุณผ่อนคลาย
Made in Japan
แหล่งที่มา:
- Li, Q., et al. “Effect of forest bathing trips on human immune function.” Environmental Health and Preventive Medicine, 2010.
- Miyazaki, Y., & Park, B. J. “Nature therapy.” Designing Our Future: Local Perspectives on Bioproduction, Ecosystems and Humanity, Springer, 2012.
- Frumkin, H., et al. “Nature contact and human health: A research agenda.” Environmental Health Perspectives, 2017.
- Tsunetsugu, Y., et al. “Physiological effects of Shinrin-yoku (taking in the atmosphere of the forest) in an old-growth broadleaf forest in Yamagata Prefecture, Japan.” Journal of Physiological Anthropology, 2007.
- Bratman, G. N., et al. “Nature experience reduces rumination and subgenual prefrontal cortex activation.” Proceedings of the National Academy of Sciences, 2015.